พร้อมเพย์คือคำตอบในโลกออนไลน์ และโซเชียลเน็ตเวิร์ก

 

27 มกราคม 2560 เปิดให้ใช้กันแล้วครับทุกธนาคาร

ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกๆ อย่าง ที่เกี่ยวข้องกับเราบนโลกใบนี้ ล้วนแล้วแต่กลายไปเป็นระบบดิจิทัลไปหมด ยังไม่นับรวมไปถึงระบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป้นการค้าการค้า การทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ล้วนแล้วแต่ใชการออนไลน์แทบทั้งหมดในปัจุบันนี้

รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้จึงได้สนับสนุนเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน เพื่อลดอุปสรรคในการทำธุรกิจ ส่งเสริมธุรกิจ SMEs และ e-Commerce  ถือได้ว่าเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-payment) ชนานใหญ่กันเลยที่เดียว

ซึ่งผลการปรับระบบนี้จะทำให้ประเทศของเราเพิ่มความสามารถในการแข่งขันการค้าขายบนโลกออนไลน์ และโซเชียลเน็ตเวิร์กในระดับโลกต่อไป (อ่านแล้วดูยิ่งใหญ่ดี ^___^)

 

ก่อนการเข้าระบบพร้อมเพย์เมื่อก่อนนั้น การค้าขายบนโลกออนไลน์ และโซเชียลเน็ตเวิร์ก จะต้องมีการโอนเงินซื้อขาย ซึ่งในเมื่อก่อนการโอนเงินผ่านบริการแต่ละครั้ง ต้องเสียค่าบริการในการโอนเงิน ครั้งละ 20-30 บทเป็นอย่างน้อย

แต่หลังจากวันที่ 26 มกราคม 2560 ไปแล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องเสียค่าบริการอีกต่อไปถ้ายอดโอนไม่ถึง 5,000 บาท

เจ้าระบบการทำธุรกรรมการเงินแบบใหม่ที่ว่านี้เขาเรียนมันว่า ระบบ “พร้อมเพย์”

“พร้อมเพย์” คือ บริการรับและโอนเงินแบบใหม่ ช่วยให้การรับ-โอนเงินเป็นเรื่องง่าย เพียงใช้เลขประจำตัวประชาชน หรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือ แทนเลขบัญชีธนาคารผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ตู้ ATM, Internet Banking (อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง), Mobile Banking (โมบายแบงก์กิ้ง) เป็นต้น

โดยจุดเด่นของบริการพร้อมเพย์นี่สำคัญมากๆครับ

เมื่อโอนเงิน ในวงเงิน “ไม่เกิน 5,000 บาท” จะไม่มีค่าธรรมเนียม แต่หากวงเงิน 5,000 บาทขึ้นไป จะเสียค่าธรรมเนียม

แต่ถ้าหากมากกว่า 5,000 บาท ละ ท่านก็ต้องจ่ายตามนี้ครับ

  • มากกว่า 5,000-30,000 บาท คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 2 บาทต่อครั้ง

  • มากกว่า 30,000-100,000 บาท ค่าธรรมเนียมไม่เกิน 5 บาทต่อครั้ง

  • มากกว่า 100,000 บาทขึ้นไป ค่าธรรมเนียมไม่เกิน 10 บาทต่อครั้ง

วิธีลงทะเบียนบริการ “พร้อมเพย์” นั้นไม่ยากครับ

ท่านสามารถลงทะเบียนเพื่อผูก “บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์/ออมทรัพย์” หรือ “กระแสรายวัน” กับ “เลขประจำตัวประชาชน” หรือ “หมายเลขโทรศัพท์มือถือ” ได้เลยครับ

โดยท่านต้องเลือกว่าจะใช้ “เลขประจำตัวประชาชน” หรือ “หมายเลขโทรศัพท์มือถือ” ในการลงทะเบียนกับธนาคารที่ท่านเลือกครับ ผ่านช่องทางใดครับ เช่น

  • ตู้ ATM
  • Internet Banking (อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง)
  • Mobile Banking (โมบายแบงก์กิ้ง)

หรือเดินไปที่สาขาธนาคารที่ท่านใช้ประจำเลยก็ได้ครับง่ายดี แต่ท่านต้องพกเอกสารประกอบการลงทะเบียนตามที่ธนาคารกำหนด เช่น

  • สมุดบัญชีหรือเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคาร
  • บัตรประจำตัวประชาชน
  • หมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ต้องการใช้ลงทะเบียน

ที่สำคัญมากๆครับ

ท่านต้องเป็นทั้ง “เจ้าของบัญชีเงินฝาก” และ “เจ้าของหมายเลขโทรศัพท์มือถือ” นะครับ  ไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนนะครับอย่าไปเผลอจ่ายละ

อย่าลืมนะครับรีบๆ ลงทะเบียนเข้าไปใช้กันนะครับเพื่อประโยชน์ของพวกเราเองครับ

ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/847106

 

ใส่ความเห็น